- หน้าแรก
- ท่างานและลงทุนในเขต EEC
- โครงสร้างพื้นฐานด้านขนส่ง โลจิสติกส์ และสาธารณูปโภค
- โครงการขนาดใหญ่
- รถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน
รถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน
โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน เป็นโครงการที่ใช้โครงสร้างและแนวเส้นทางการเดินรถเดิม
ของระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแอร์พอร์ตเรลลิงก์ (Airport Rail Link)
ที่เปิดให้บริการอยู่ในปัจจุบัน โดยจะก่อสร้างทางรถไฟขนาด 1.435 เมตร (Standard Gauge)
ส่วนต่อขยาย 2 ช่วงจากสถานีพญาไทไปยังสนามบินดอนเมือง และจากสถานีลาดกระบัง
ไปยังสนามบินอู่ตะเภา พร้อมเชื่อมเข้าออกสนามบิน โดยใช้เขตทางเดิมของการรถไฟฯ เป็นส่วนใหญ่
ความเป็นมาและความสำคัญ
- 27 มี.ค. 2561 ครม. อนุมัติโครงการรถไฟความเร็วสูง เชื่อมสามสนามบิน ในรูปแบบ PPP Net Cost
- เป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักในการพัฒนา EEC
- พัฒนาพื้นที่มักกะสันเป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงระหว่างกรุงเทพฯ และ EEC (Transit Oriented Development: TOD
- ส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ ลดมลพิษและอุบัติเหตุบนถนน
- เชื่อมสนามบินอู่ตะเภาเข้ากรุงเทพฯ ทำให้สนามบินอู่ตะเภาเป็น Aviation Hub
- ระยะเวลาร่วมลงทุน: 50 ปี (ก่อสร้าง 5 ปี + เดินรถและซ่อมบำรุง 45 ปี)
- อัตราคิดลด 2.375% (Fixed Deposit Rate + 1)
ขอบเขตโครงการ
การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กับ เอกชนคู่สัญญา
(เอเชีย เอรา วัน) ลงนามข้อตกลงการร่วมลงทุนระหว่าง
ภาครัฐและเอกชน พัฒนาโครงการรถไฟความเร็วสูง
เชื่อมสามสนามบิน สำนักงานคณะกรรมการนโยบาย
เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ร่วมลงนาม
บันทึกข้อตกลงความร่วมมือการดำเนินโครงการ
ร่วมกับ รฟท. ภายใต้ข้อตกลงการร่วมลงทุน
ระหว่างภาครัฐและเอกชน
โครงการเกี่ยวกับรถไฟ ประกอบด้วย
– รถไฟความเร็วสูง (“HSR”) (สร้างใหม่)
– แอร์พอร์ต เรลลิงก์ (“ARL”) (ปรับปรุงของเดิม)
– แอร์พอร์ต เรลลิงก์ส่วนต่อขยาย (“ARLEX”) (สร้างใหม่)
การพัฒนาพื้นที่เพื่อสนับสนุนบริการรถไฟ
ของโครงการฯ ประกอบด้วย
ของโครงการฯ ประกอบด้วย
– พื้นที่มักกะสัน 140.8 ไร่
– พื้นที่ศรีราชา 27.45 ไร่
การดำเนินกิจการทางพาณิชย์ ประกอบด้วย
– สถานีรถไฟ/ขบวนรถไฟ
– ทางเชื่อมต่อระหว่างอาคารสถานี
– อาคารและสถานที่จอดรถและจร (ถ้ามี)
รายละเอียดโครงการ
หน่วยงานเจ้าของโครงการ
: การรถไฟแห่งประเทศไทย
ลักษณะโครงการ
: เชื่อมกรุงเทพ กับพื้นที่ EEC ใช้เวลาไม่เกิน 60 นาที
ด้วยรถไฟความเร็วสูง ที่ความเร็วสูงสุด
250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระยะทาง 220 กม.
และพัฒนาพื้นที่มักกะสัน 140.8 ไร่
เป็น EEC Gateway
สถานีรถไฟความเร็วสูง
: 9 สถานี
ศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟความเร็วสูง
: พื้นที่ 400 ไร่ บริเวณฉะเชิงเทรา
ระยะเวลาร่วมลงทุน
: 50 ปี (รวมระยะเวลาก่อสร้าง 5 ปี)
เงินลงทุนของภาครัฐ
: 159,380 ล้านบาท
เงินลงทุนของเอกชน
: 111,994 ล้านบาท
เงินลงทุนรวม
: 271,824 ล้านบาท
สัญลักษณ์
รถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน
สถานีรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน
ทางรถไฟสายตะวันออก
สนามบิน
ท่าเรือ
TOD
รูปแบบการเดินรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน
ระยะทาง 50 กม. จำนวน 10 สถานี
ใช้ความเร็ว 160 กม./ชม.
ระยะทาง 170 กม. จำนวน 6 สถานี
ใช้ความเร็ว 250 กม./ชม.
ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 50 นาที
(จอดทุกสถานี)
ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง
(จอดบางสถานี)
หน้าที่และความรับผิดชอบ
ของรัฐและเอกชนและ
ระยะเวลาของโครงการ
รัฐ (รฟท.)
โครงการเกี่ยวกับรถไฟ
- เวนคืนที่ดิน
- ขอใช้พื้นที่หน่วยงานรัฐ
- โยกย้ายผู้บุกรุก
- รื้อย้ายสาธารณูปโภค
การพัฒนาพื้นที่เพื่อสนับสนุนบริการรถไฟของโครงการฯ
- ส่งมอบพื้นที่ และสิทธิการใช้ที่ดิน
- ผังการใช้ประโยชน์ที่ดิน
เอกชน
โครงการเกี่ยวกับรถไฟ
- ปรับปรุง แอร์พอร์ตเรลลิงก์
- ออกแบบและก่อสร้างงานโยธา
- จัดหาและติดตั้งงานระบบไฟฟ้าเครื่องกลและขบวนรถไฟ
- เดินรถไฟและซ่อมบำรุง
- เก็บรายได้ค่าโดยสารและเชิงพาณิชย์
การพัฒนาพื้นที่เพื่อสนับสนุนบริการรถไฟของโครงการฯ
- พัฒนาโครงการ EEC Gateway
- ดำเนินการและซ่อมบำรุง
- เก็บรายได้การพัฒนาฯ
ระยะเวลาโครงการ
- ก่อสร้าง 5 ปี
- เดินรถและบำรุงรักษา 45 ปี
- รวม 50 ปี
- รูปแบบการร่วมลงทุน PPP Net Cost 50 ปี
กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่จำเป็นในการดำเนินโครงการ
โครงการเกี่ยวกับรถไฟ
- เอกชนสร้าง โอนให้รัฐ (BTO)
- เอกชนได้สิทธิพัฒนาและบริหาร 50 ปี (พัฒนา 5 ปี / บริหาร 45 ปี)
การพัฒนาพื้นที่เพื่อสนับสนุนบริการรถไฟ
- เอกชนสร้าง บริหาร โอนให้รัฐ (BOT)
- เอกชนได้สิทธิพัฒนาและบริหาร 50 ปี (พัฒนา 5 ปี / บริหาร 45 ปี)
เงื่อนไข: พัฒนาสถานีศูนย์กลางเดินทางเชื่อมต่อ กทม. และ EEC
- เอกชนจ่ายค่าเช่าที่ดินให้ รฟท. 52,337 ล้านบาท
- แบ่งสัดส่วนรายได้ให้รัฐ (Revenue Sharing)
การพัฒนาที่ดินรอบสถานีรถไฟความเร็วสูง (TOD)
สถานีมักกะสัน
- พื้นที่พัฒนา 140.8 ไร่
-
การพัฒนาะโครงการต้องเป็นแบบ TOD
(Transit Oriented Development) และ Smart City - ระยะเวลาโครงการ 50 ปี
- พื้นที่ก่อสร้างขั้นต่ำ 850,000 ตร.ม
-
รฟท. จะมีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่ใช้ในการพัฒนา
พื้นที่ ตามรูปแบบ Build–Operate–Transfer หรือ BOT
สถานีศรีราชา
- พื้นที่พัฒนา 27.45 ไร่
-
การพัฒนาโครงการต้องเป็นแบบ TOD
(Transit Oriented Development) และ Smart City - ระยะเวลาโครงการ 50 ปี
- พื้นที่ก่อสร้างขั้นต่ำ 20,000 ตร.ม.
งบประมาณ
การลงทุน
รวมเงินลงทุน
271,824 ล้านบาท
ภาครัฐ
ลงทุน 159,830 ลบ.
- เงินที่รัฐร่วมลงทุน 149,650 ลบ.
- ค่าภาระหนี้โครงสร้าง ARL
- ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน
- ค่ารื้อย้ายสาธารณูปโภค
รายได้
- ค่าเช่าพื้นที่ TOD
- ค่าสิทธิ ARL
เอกชน
ลงทุน 111,994 ลบ.
- ค่าระบบรถไฟและขบวนรถไฟ
- ค่าสิทธิ ARL
- ค่าปรับปรุง ARL
- ค่าพัฒนาพื้นที่ TOD
รายได้
- ค่าโดยสาร
- การพัฒนาพื้นที่ TOD
- พื้นที่เชิงพาณิชย์ในสถานี
สถานะโครงการและความคืบหน้า
ภาพรวมความคืบหน้า
การดำเนินโครงการของฝ่ายรัฐ
1. ส่งมอบพื้นที่ช่วงสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา เมื่อ 15 ต.ค. 64 แล้วเสร็จ ประกอบด้วย
- เวนคืน 922 ไร่
- รื้อย้ายสาธารณูปโภค 653 จุดเรื้อก่อนส่งมอบ 533 จุด เรื้อระหว่างก่อสร้าง 120 จุดไม่เป็นเงื่อนไขการส่งมอบพื้นที่
- รื้อผู้บุกรุก 302 หลัง
- ยกเลิกสัญญาเช่า 6 สัญญา
- ขอใช้ที่หน่วยงานรัฐ 7 หน่วย
2. ส่งมอบพื้นที่ TOD มักกะสัน และศรีราชา เมื่อ 15 ต.ค. 64 แล้วเสร็จ ประกอบด้วย
- ยกเลิกสัญญาเช่า
- เคลียร์พื้นที่ได้ข้อยุติพื้นที่ทดแทนลำรางสาธารณะฯ ที่พบภายหลังลงนาม
3. ส่งมอบพื้นที่ช่วงพญาไท-ดอนเมือง เมื่อ พ.ย. 65 แล้วเสร็จ ประกอบด้วย
- เวนคืน 3 ไร่
- รื้อย้ายสาธารณูปโภค 67 จุด เรื้อก่อนส่งมอบ 41 จุด
รื้อระหว่างก่อสร้าง 26 จุดไม่เป็นเงื่อนไขในการส่ง มอบพื้นที่ - รื้อผู้บุกรุก 267 หลัง
- ยกเลิกสัญญาเช่า 3 สัญญา
- ขอใช้ที่หน่วยงานรัฐ 3 หน่วย (กฟน., กปน., กทม. ทำพร้อมอุโมงค์โครงการ)
4. ส่งมอบพื้นที่ แอร์พอร์ต เรลลิงก์ เดิม เมื่อ 24 ต.ค. 64 แล้วเสร็จ
- ทำบันทึกรับมอบทรัพย์ที่ใช้ในแอร์พอร์ต เรลลิงก์แล้ว
การดำเนินโครงการของฝ่ายเอกชน
DTS / ATS / AFC เป็นต้น รวมถึงงานระบบวิศวกรรมประกอบอาคาร
135 กิโลเมตร
56 กิโลเมตร
ที่ เปรง
193 ไร่
ที่ พานทอง
244 ไร่
ที่ บางละมุง
94 ไร่
สถานะและแผนดำเนินโครงการ
ลงนาม
สัญญาร่วมลงทุน
24 ต.ค. 2562
รฟท.
ส่งมอบพื้นที่
ช่วงสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา
24 ต.ค. 2564
รพท.
ส่งมอบพื้นที่
ช่วงพญาไท-ดอนเมือง
ต.ค. 2566
NTP
ปี 2569
2574
เปิดให้บริการรถไฟ
ความเร็วสูงทั้งระบบ
รื้อย้ายสาธารณูปโภค
(ต.ค.68) แก้ไขปัญหา
ผลกระทบทางการเงินจาก
โควิด-19
